สวัสดีครับผมนาย กะทิไท วันนี้ได้นำผลิตภัณฑ์ชิ้นที่ 2 มาแนะนำเพื่อนๆ ครับ ก็คือ "ผ้าบาติก" ผลิตภัณฑ์จากจังหวัดภูเก็ตครับ เราไปดูกันเลยครับ
เอกลักษณ์และจุดเด่นผลิตภัณฑ์
ลักษณะที่โดดเด่นของผ้าบาติก
คือ ศิลปหัตถกรรมบนผืนผ้าอันงดงาม
เกิดจากฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เขียนลวดลายสีสรร และเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรมความเป็นชาตินั้นๆ
เช่น การนำเสนอภาพธรรมชาติ ภาพวัฒนธรรม และภาพจากจินตนาการของผู้เขียน เป็นภาพเขียน
Free Hand ๑ ตัว ๑ ลาย ๑ เดียวในโลก
(กรณีไม่ใช่เสื้อที่สั่งทำเป็นหมู่คณะ)
วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1.ผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้ามัสลิน ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าไหมไทย (ก่อนนำผ้ามาใช้ควรซักทำความสะอาดก่อนโดยซักผ้ากับน้ำเปล่าหรือน้ำส้มสายชูเพื่อให้สารฟอกขาวหรือแป้งที่ติดอยู่กับผ้าออกให้หมด)
2.ปากกาเขียนเทียน ใช้ตักน้ำเทียนเพื่อเขียนเส้นเทียนลงบนผ้าสร้างสรรค์เป็นลวดลายต่างๆ
3.เทียนสำหรับเขียนบาติก ใช้สำหรับเขียนลวดลายต่างๆ บนผืนผ้า เพื่อกั้นสีไม่ให้ไหลซึมเข้าหากัน
4.สีสำหรับทำผ้าบาติก เป็นสีย้อมเย็น มีลักษณะเป็นผง นำสีมาผสมกับน้ำอุ่น ปัจจุบันมีสีให้เลือกหลากหลาย
5.ไส้แทงปากกาเขียนเทียน เป็นอุปกรณ์ที่มีด้ามเป็นไม้ ส่วนปลายเป็นเส้นลวดขนาดเล็ก หรืออาจจะใช้สายกีต้าร์เส้นเล็กๆ แทนก็ได้ เพื่อแก้ปัญหาการอุดตันของปากกาเขียนเทียน โดยใช้ส่วนที่เป็นเส้นลวดแทงที่ปลายท่อของปากกา
6.น้ำยาเคลือบผ้ากันสีตกหรือโซเดียมซิลิเกต
7.พู่กันเบอร์ ๘,๑๐,๑๒,๒๔ ใช้สำหรับระบายสีผ้าควรเป็นพู่กันสำหรับระบายสีน้ำ ใช้ได้ทั้งชนิดกลมและแบน
8.ภาชนะต้มเทียน ควรเป็นโลหะที่ทนต่อความร้อนได้ดี เช่น อลูมิเนียม สแตนเลส เหล็ก เป็นต้น
9.เตาต้มเทียน ควรเป็นเตาไฟฟ้าที่ปรับอุณหภูมิได้ เพื่อควบคุมความร้อนของน้ำเทียนได้พอดี ทำให้การเขียนเส้นเทียนไม่มีปัญหา
10.เฟรมไม้ขนาดตามผลิตภัณฑ์ เช่น
- ผ้าเช็ดหน้า ใช้เฟรมขนาด ๑๒ X ๑๒ นิ้ว หรือ ๑๗ X ๑๗ ซม.
- เสื้อ ใช้เฟรมขนาด ๑๓๕ X ๑๘๐ ซม.
11.อุปกรณ์สำหรับต้มผ้า ได้แก่ กะละมังอลูมิเนียมหรือสแตนเลส ปิ๊บน้ำ หรือหม้อที่สามารถต้มน้ำเดือดได้ ส่วนเตาที่ใช้ต้มผ้าจะเป็นเตาแก๊สหรือเตาถ่านก็ได้
12.อุปกรณ์ทั่วไป ได้แก่
- แปรงขนาดใหญ่หรือลูกกลิ้ง สำหรับทาน้ำยาเคลือบกันสีตก
- กระป๋องพลาสติกขนาดเล็กสำหรับเก็บสีที่ผสมแล้ว
- จานสีหรือรางพลาสติกสำหรับทำน้ำแข็งภายในตู้เย็นสำหรับผสมสีเพื่อระบายควรเป็นสีขาว
- ดินสอ ๒B หรือ ๓B /ยางลบ /ไม้บรรทัดขนาดยาว
- สายวัด /กรรไกร /คัดเตอร์
- กะละมังหรือถังน้ำพลาสติกใช้ในการซักล้าง
- ถุงมือยางใช้ป้องกันไม่ให้มือสัมผัสกับสารเคมีจากน้ำยาโซเดียมซิลิเกต
- สบู่เหลวหรือผงซักฟอก
ขั้้นตอนการผลิต
1.ขึงผ้าบนกรอบไม้ ให้นำผ้ามาขึงบนกรอบไม้ที่ทาเทียนไว้แล้ว โดยใช้ด้ามพู่กันถูบนผ้าไปมาทั้ง ๔ ด้าน ดึงผ้าให้ตึงทีละด้าน
2.ร่างแบบ นำแบบมาวางด้านล่างกรอบไม้ที่ขึงผ้าไว้ ใช้ดินสอร่างภาพตามแบบที่ต้องการ
3.เขียนเทียน ใช้ปากกาเขียนเทียนเขียนตามเส้นดินสอที่ร่างแบบไว้
4.ระบายสี ระบายสีภาพตามแบบที่ร่างไว้
5.เคลือบน้ำยากันสีตก ใช้แปรงจุ่มโซเดียมซิลิเกตทาให้ทั่วผืนทิ้งไว้ ๖ – ๑๒ ชั่วโมง
6.ซักน้ำยาเคลือบ นำผ้าไปซักล้างโซเดียมซิลิเกตด้วยน้ำธรรมดา เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ จนน้ำที่ซักใส
7.ต้มลอกเทียนและทำความสะอาดผ้า ๒ ครั้ง ดังนี้
- ต้มผ้าครั้งแรกด้วยน้ำร้อนให้ทั่วผืน แล้วใช้ไม้เกี่ยวผ้ายกขึ้น - ลงหลายๆครั้งให้เทียนหลุด
- ต้มผ้าครั้งที่สอง โดยใช้สบู่เหลวหรือผงซักฟอกใส่ลงไปในน้ำร้อน แล้วล้างผ้าให้สะอาด นำไปผึ่งให้แห้งในที่ร่มหรือแดดอ่อน
จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการตกแต่งผ้าหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกอื่น ๆ เช่น เย็บผ้าเป็นผ้าเช็ดหน้า หรือตัดผ้าเป็นเสื้อสุภาพบุรุษ - สตรี และอื่น ๆ ตามต้องการ
แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
1.ณ สถานที่ผลิต
2.ศูนย์ OTOP องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
3.ร้านกรทอง
4.ร้านค้าประตูเมืองภูเก็ต
5.ออกบูธจำหน่ายในงานที่ส่วนราชการและเอกชนจัดทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด
6.รับสั่งซื้อสั่งจ้างทางโทรศัพท์และทาง e-mail
7.นำส่งทางไปรษณีย์/ สนามบิน /และสถานีขนส่งตำบลโคกกลอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น